วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

มะขาม ยาถ่ายใกล้มือ

ทุกคนและสัตว์มีชีวิตอยู่ได้ก็ด้วยอาหาร ว่ากันตรงๆ ก็คือ ต้องกินนั่นเอง ถ้ากินไม่ได้หรือไม่ได้กินก็ต้องตายเป็นที่รู้ๆ กันอยู่ แต่ถ้ากินได้กินดี แล้วไม่ยอมถ่ายสักทีก็จะตายอีก การถ่ายจึงเป็นของคู่กับการกิน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้สาเหตุแห่งการถ่ายไม่ได้หรือไม่ออกนั้น เราเรียกกันว่า “ท้องผูก” ได้แก่อึแข็งนั่นเอง
ต้นเหตุของท้องผูกมีหลายประการ เช่น กินอาหารไม่มีการอาหาร ไม่ชอบกินผักผลไม้ ไม่ชอบดื่มน้ำ ไม่ชอบออกกำลังกาย อดนอน ใช้ความคิดมากเกินไป เป็นต้นผู้ที่บริหารสุขภาพไม่ได้ จะต้องมีโรคประจำตัวอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายๆ อย่าง เช่น ท้องผูก เป็นต้นการที่ท้องผูกให้ทุกข์และโทษอย่างไร คิดว่าทุกคนคงเคยเป็นมาบ้างไม่มากก็น้อย
ตามแต่ธาตุหนักหรือเบาโรคที่นะเกิดตามมาจากการท้องผูก คือ อาการครั่นเนื้อครั่นตัวคล้ายจะเป็นไข้ กินไม่ค่อยได้นอนไม่ค่อยหลับ ท้องอืด เฟ้อ มึนศีรษะ ความคิดไม่ปลอดโปร่ง อารมณ์หงุดหงิด แต่ละคนมีอาการไม่เหมือนกันใครมีอาการเหล่านี้แล้วท้องผูกด้วยอย่าได้ตกใจ ไม่ต้องรีบหาซื้อยาถ่ายราคาแพงมากิน ในบ้านเราหรือเอาง่ายๆ ในครัวเรามีตัวยาถ่ายอย่างดีราคาถูกปลอดภัยไม่มีพิษข้างเคียงหรือตกค้างให้คันหัวใจ นั่นคือ “มะขามเปียก” นั่นเองผู้เขียนมีประสบการณ์มามาก ในสมัยครองเรือนก็ใช้มาตลอด แม้ในปัจจุบันจะไม่ได้ใช้ (เพราะธาตุตัวเองอ่อน) แต่ก็ได้ใช้แก้ปัญหาท้องผูกให้พระ เณร เด็กวัด และชาวบ้านมาตลอด ได้ผลดีทุกราย
วีธีทำหรือกินก็ง่ายมากถ้าท้องผูกมาก เคยถ่ายประจำวันแล้วเกิดหยุดไป 2-3 วันไม่ถ่าย แน่นท้อง อึดอัด ให้ใช้มะขามเปียกขนาดกำปั้นผู้ใหญ่ จะมีเมล็ดหรือไม่มีเมล็ดก็ได้ เอามาขยำกับน้ำสุกสักชามก๋วยเตี๋ยวใหญ่ หรือประมาณ 3 แก้ว ให้ได้น้ำมะขามขั้น ๆ เหมือนก๋วยจั๊บน้ำข้นค่อนชามใหญ่ เอาเกลือผสมลงไปเพื่อตัดรสเปรี้ยวสักช้อน 1 กาแฟ แล้วดื่มให้หมดในคราวเดียวตอนก่อนนอนสัก 1 หรือ 2 ชั่วโมงเมื่อดื่มแล้วสักครู่ จะมีอาการปั่นป่วนในท้องอย่าตกใจ สักครู่ใหญ่จะถ่ายสัก 2 หรือ 3 ครั้งแล้วก็หยุดไปเอง ไม่ต้องกินยาคุมธาตุ ถ้าท้องผูกเพียงเล็กน้อย จะเอามะขามเปียกจิ้มเกลือกินสัก 5 ฝักก็จะถ่ายเป็นปกติถ้าเด็กเล็กให้กินมากๆ อย่างนั้นยาก ก็คงจับแกนอนคว่ำลง เอามะขามเปียกที่มีเมล็ดด้วยยึดเข้าไปทางก้นสักฝักหรือครึ่งฝัก ครูเดียวก็จะถ่ายเป็นจรวดหายร้องโยเยทันที อย่าลืม ก่อนยัดใส่ก้น ควรหักเป็นข้อๆ แล้วยัดเข้าไปทีละข้อท้องผูกเกิดจากอุจจาระแข็ง และที่แข็งนั้นก็มิได้แข็งทั้งหมด มันแข็งแต่ต้นขบวนเท่านั้น เพราะทับถมและถูกกดแน่น
จึงเกิดอาการท้องผูก เมื่อต้นขบวนถูกข้าศึก (มะขาม) ทำลาย กลางขบวนและท้ายขบวนก็เคลื่อนสะดวกอย่างไรก็ดี การปล่อยให้ท้องผูกแล้วแก้ทีหลัง เป็นการแก้ที่ปลายเหตุไม่ถูกต้อง ยิ่งไปเชื่อหรือซื้อยาถ่ายของต่างประเทศ ยิ่งจะเป็นการทำลายเศรษฐกิจในครอบครัวที่น่าสงสาร เพราะยาถ่ายจากสมุนไพรในบ้านเรามีมากมายทั้งหาง่าย ราคาถูก พิษภัยก็ไม่มี ยิ่งถ้าได้กินอาหารที่มีกาก ออกกำลังกายและดื่มน้ำมากๆ เป็นประจำวันก็จะไม่รู้จักกับท้องผูกอีกเลยขอบคุณ หมอชาวบ้าน

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

5 วิธีสวยช่วยลดโลกร้อน

ปริมาณขยะ 2 แสนล้านล้านตันต่อปีทั่วโลกในปัจจุบัน ประมาณ 120 ล้านตันมาจากเครื่องสำอาง โดยปริมาณสารเคมีหรือสารตกค้างในเครื่องสำอางมีส่วนทำให้โลกร้อนขึ้นปีละ 0.02 องศาเซลเซียส
1. สวยด้วยธรรมชาติการดูแลความงามด้วยพืช ผัก และผลไม้ ช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ เพราะไม่ผ่านกระบวนการผลิต และปราศจากสารเคมีที่เป็นพิษ ลดอาการแพ้ หรือการตกค้างของสารเคมี ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาผิว เช่น สิวและฝ้าได้จากการสำรวจพบว่า ผู้หญิงไทยร้อยละ 35 สนใจที่จะใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช มาใช้บำรุงความงาม เพราะให้ผลดีในระยะยาว และยังพบว่าผู้หญิงมีแนวโน้ม ที่จะดูแลความงามจากวัตถุดิบธรรมชาติมากขึ้น
2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ Green Product ดังนี้- เลือกผลิตภัณฑ์ความงามออร์แกนิกและไบโอติก ซึ่งผลิตจากพืชสมุนไพร และผลไม้ปลอดสารพิษ ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ หรือระคายเคือง- เครื่องสำอางลดโลกร้อน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่นำ Organic Palm Oil มาใช้ในอุตสาหกรรมความงามแทนสารสกัดจากปิโตรเลียม ครีมกันแดดประเภท Physical Sunscreen Biodegradable Sunscreen ซึ่งย่อยสลายได้ นอกจากนี้ยังมีอายแชโดว์ และบลัชออนที่ผลิตจากผงแร่ธาตุบริสุทธิ์แทนส่วนผสมของน้ำมัน ขี้ผึ้ง น้ำหอม และสารกันเสีย- หลีกเลี่ยงเครื่องสำอางนาโน เนื่องจากกระบวนการผลิตเครื่องสำอางชนิดนี้มีอานุภาคเล็ก ยากต่อการย่อยสลาย ทำให้เกิดสารเคมีตกค้างในสิ่งแวดล้อม
3. มองหาเครื่องหมาย Green Dotเครื่องหมายนี้พบได้บนฉลากของผลิตภัณฑ์ที่มีกระบวนการผลิต ที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอนุรักษ์พลังงานธรรมชาติ และบริษัทผู้ผลิตได้จ่ายเงินในการกำจัดขยะให้แก่หน่วยงานที่รับผิดชอบ
4. รีไซเคิลมีผู้ผลิตเครื่องสำอางหลายยี่ห้อชักชวนให้นำเครื่องสำอาง ที่ใช้แล้วไปผ่านกระบวนการรีไซเคิล แต่ยังพบว่าพลาสติกส่วนใหญ่ ที่เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลนั้นเป็นพลาสติกชนิด PET (Polyethylene Terephthalate) ซึ่งรีไซเคิลได้เพียง 30 เปอร์เซ็นต์ จึงมีการรณรงค์ให้หันมา ใช้เครื่องสำอางในบรรจุภัณฑ์พลาสติก PCR (Post Consumer Recyclate) ซึ่งรีไซเคิลได้ 100 เปอร์เซ็นต์
5. ใช้เครื่องสำอางประเภทรีฟิล (refill)ช่วยลดจำนวนพลาสติกเหลือใช้ ทั้งยังประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกด้วยเท่านี้ก็แต่งหน้าทาปากได้อย่างสบายอกสบายใจเหมือนเดิม แถมยังช่วยลดความร้อนให้โลกไปด้วยในตัว

วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ไข้หวัดหมู หรือไข้หวัดเม็กซิโก

เริ่มต้นไขข้อข้องใจ ไข้หวัดหมูคืออะไร
ไข้หวัดหมู เป็นโรคทางเดินหายใจที่พบและแพร่ระบาดในหมู ซึ่งมีสาเหตุจาก
ไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A โดยปกติจะไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อในคน แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือนมีนาคม ปี 2552 ได้พบว่ามีการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดหมู
ในประเทศเม็กซิโก และอเมริกา เป็นสายพันธุ์ที่ไม่เคยพบมาก่อนในมนุษย์ เป็นสายพันธุ์ที่มีชิ้นส่วนของพันธุกรรมเกิดจากการผสมผสานของไข้หวัดหมู ที่เคยมีรายงานในอเมริกา หรือ ยุโรป และเอเชีย รวมทั้งชิ้นส่วนพันธุกรรมของไข้หวัดที่เคยรายงานไว้ในอเมริกาเหนือ จึงถือได้ว่าเป็น “ไวรัสสายพันธุ์ใหม่”
และเมื่อดูองค์ประกอบเปรียบเทียบกับวัคซีน H1N1 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มีความคล้ายคลึงกันไม่ถึง 80% บ่งชี้ให้เห็นว่า การป้องกันด้วยวัคซีนที่ใช้ในปัจจุบันก็ไม่น่าจะได้ผลอาการของผู้ที่ติดเชื้อไขหวัดหมูอาการผู้ป่วยไข้หวัดหมูจะคล้ายคลึงกับอาการของไข้หวัดทั่วไป คือ

มีไข้ไอ เจ็บคอปวดเมื่อยตามร่างกายปวดหัวหนาวสั่น และอ่อนเพลียในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการท้องเสีย และอาเจียนร่วมด้วยนอกจากนี้ในรายที่มีอาการรุนแรง จะมีอาการปวดบวม การหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตการแพร่เชื้อของไข้หวัดหมูเกิดได้อย่างไรเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้

มีการแพร่ติดต่อเช่นเดียวกับโรคไข้หวัดใหญ่ในคนโดยทั่วไป คือเชื้อ นั้นจะอยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย แพร่ไปยังผู้อื่นโดยการไอ หรือจามรดกันในระยะใกล้ชิด หรือติดจากมือและสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่ และเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูกและตา เช่น การแคะจมูก การขยี้ตาแล้วเราจะติดเชื้อไข้หวัดหมูจากการกินหมูหรือไม่เชื้อไข้หวัดหมูไม่แพร่ทางอาหาร ดังนั้นเราก็จะไม่ติดเชื้อจากการรับประทานเนื้อหมู หรือผลิตภัณฑ์จากหมู การติดเชื้อจากผู้ป่วยเกิดได้อย่างไรผู้ป่วยไข้หวัดหมู สามารถแพร่เชื้อให้แก่คนอื่นได้ เริ่มตั้งแต่ก่อนเกิดอาการของโรค 1 วัน จนกระทั่ง
หลังจากมีอาการป่วย 7 วันหรือมากกว่านั้น ซึ่งหมายถึงว่า ผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นก่อนที่เค้าจะรู้ว่าตัวเองป่วย เราควรทำอย่างไรที่จะหลีกเลี่ยงการติดเชื้อไข้หวัดหมู

ล้างมือให้สะอาดพยายามรักษาสุขภาพนอนให้เพียงพอออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ดื่มน้ำให้เพียงพอไม่สัมผัสพื้นผิว
ที่มีความเสี่ยงที่จะปนเปื้อนด้วยเชื้อไข้หวัดหมูหลีกเลี่ยงที่ใกล้ชิดคนที่ป่วยยาที่ใช้ในการรักษาไข้หวัดหมู ยาที่ใช้ในการรักษาหรือป้องกันไข้หวัดหมู คือ oseltamivia หรือ zanamivia ซึ่งยาต้านไวรัสนี้จะช่วยให้อาการป่วยนี้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังป้องกันโรคแทรกซ้อนที่ร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นได้
ในการรักษาด้วยยาเหล่านี้จะให้ผลดีที่สุด เมื่อเริ่มการรักษาหลังจากเริ่มมีอาการภายใน 2 วันสิ่งที่อาจมีการปนเปื้อนด้วยเชื้อไข้หวัดหมูเชื้อไข้หวัดหมูสามารถแพร่ไปยังผู้อื่นด้วยการสัมผัสสิ่งที่ปนเปื้อนเชื้อโรค
และนำเชื้อเข้าสู่ร่างกายด้วยการนำไปสัมผัสที่ตา จมูก หรือปาก ละอองเสมหะจากการไอหรือจามของผู้ป่วยไข้หวัดหมูจะกระจายไปในอากาศ การแพร่เชื้อก็จะเกิดจากการที่เราสัมผัสถูกละอองเสมหะเหล่านั้น เช่น ละอองเสมหะที่ตกลงบนโต๊ะ จากนั้นเมื่อเราสัมผัสถูกละอองเสมหะ
แล้วไม่ได้ล้างมือก่อนที่จะสัมผัสบริเวณตา จมูก ปาก ก็จะเป็นการนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ไวรัสโดยทั่วไปสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานเท่าไหร่นอกร่างกายโดยปกติไวรัสและแบคทีเรียสามารมีชีวิตอยู่นอกร่างกาย (เช่น บริเวณพื้นผิวโต๊ะ ลูกบิดประตู เป็นต้น ) ได้ 2 ชั่วโมงหรือนานกว่า ดังนั้นการล้างมือบ่อยครั้งจึงเป็นการป้องกันการติดเชื้อได้เราสามารถป้องกันตนเองจากการป่วยด้วยไข้หวัดหมูได้อย่างไรในขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกันไข้หวัดหมู ดังนั้นจึงมุ่งเน้นในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ ซึ่งมีแนวทางด้งต่อไปนี้

ปิดปาก จมูกด้วยกระดาษทิชชู่เมื่อมีการไอ หรืจาม ทิ้งกระดาษทิชชู่ลงในขยะหลังจากที่ใช้

ล้างมือบ่อยครั้งด้วยสบู่ (ใช้เวลาล้าง 15-20 วินาที) โดยเฉพาะหลังการไอและจาม หรือใช้เจลอัลกอฮอล์ทำความสะอาดมือแทนได้เช่นกัน

หลีกเลี่ยงการสัมผัส ดวงตา จมูก หรือปาก ซึ่งเป็นทางที่จะนำเชื้อเข้าสู่ร่างกาย

หลีกเลี่ยงที่จะใกล้ชิดกับคนที่ไม่สบาย

ถ้าคุณป่วยเป็นไข้หวัด ควรพักผ่อนอยู่ที่บ้าน หรือจำกัดการติดต่อผู้อื่นเพื่อป้องกันการแพร่ของโรคอ้างอิงQuestions & Answers.Swine Influenza and You. CDC ( Center for disease control and prevention.